คุณทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดโลโก้ของ Apple จึงมีรอยถูกกัดไปเสี้ยวหนึ่ง? โลโก้ที่เราเห็นในปัจจุบันคือโลโก้อันที่ 5 แล้ว 4 อันก่อนหน้านี้หน้าตาเป็นอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร? แล้วทำไมบริษัทจึงชื่อว่า Apple? ชื่อ Macintosh มาจากไหน? มาเลย..วันนี้เราจะเล่าให้คุณฟัง
Steve Jobs และ Steve Wozniack ก่อตั้งบริษัท Apple Computer Inc. ขึ้นเมื่อปี 1976 สิ่งแรกที่พวกเขาต้องการคือชื่อบริษัทฯ และแน่นอนชื่อที่พวกเขาเลือกคือ “Apple” มีเรื่องเล่ากันว่าทั้งสอง Steve มักจะใช้เวลายามว่างในฟาร์มแอปเปิลใกล้ๆ บ้านเพื่อเป็นการพักผ่อน หรือแม้แต่ในเวลาทำงานบางครั้งทั้งคู่ก็จะไปนั่งหารือกันในฟาร์มแอปเปิล จึงเป็นที่มาของชื่อ “Apple” นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีการพูดกันว่ามันเป็นตัวแทนของความรู้จากเรื่องราวของ Adams and Eve หรือมันเพราะต้องการให้ชื่อถูกแสดงขึ้นมาก่อน Atari เมื่อค้นหาข้อมูลที่เรียงตามตัวอักษร
อีกตำนานกล่าว่าตั้งชื่อตามค่ายเพลงของวงดนตรีที่ Steve Jobs ชื่นชอบมาก..ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือถ้า Steve Jobs รู้เค้าอาจจะไม่ตั้งชื่อบริษัทว่า Apple เลยก็ได้ ทั้งนี้เพราะ “The Beatles” ได้ก่อตั้งบริษัทค่ายเพลงชื่อ Apple Corps. ขึ้นมาก่อนที่ Apple Computer จะเกิด ดังนั้นด้วยกฎหมายเรื่องเครื่องหมายทางการค้า Apple Corps. จึงได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อ Apple อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทั้งสองบริษัทฯ ตกลงกันได้ด้วยดี โดย Apple Computer จ่ายให้กับ Apple Corps. เป็นเงิน $80,000 และตกลงว่าจะไม่ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเพลงและดนตรี กาลเวลาผ่านไป Apple Computer ได้สร้าง iPod และ iTunes Store ที่เกี่ยวข้องกับเพลงโดยตรง ทั้งสองบริษัทฯ จึงได้เจรจากันใหม่ ในคราวนี้ Apple Computer ต้องจ่ายเงินให้ Apple Corps. เป็นจำนวนถึง $500,000,000 เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อ “Apple” (ดูรายละเอียดที่ Wikipedia)
และเรื่องราวของผลแอปเปิลกับบริษัท Apple ยังมีเล่ากันอีก เช่น ในช่วงเวลาหนึ่ง Jobs กินแอปเปิลเพียงอย่างเดียวเพราะเขื่อว่าจะทำให้ไม่มีกลิ่นตัว จึงไม่ต้องอาบน้ำบ่อย ดังนั้นเค้าจะมีเวลาในการทำงานมากขึ้น ต่อมาเมื่อ Apple จะทำการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ได้นำเอาชื่อของแอปเปิลพันธ์ุหนึ่งมาตั้งเป็นชื่อของคอมพิวเตอร์รุ่นนั้น…ใช่ครับชื่อนั้นคือ “Macintosh” แต่ทว่าคำว่า ”Macintosh” จริงๆ แล้วไม่มีปรากฏ อยู่ในพจนานุกรมภาษาอังกฤษดล่มใดเลย ทั้งนี้เพราะชื่อของพันธุ์แอปเปิลที่ว่านั้นมีชื่อว่า Mcintosh (Mc ไม่ใช่ Mac) มันเป็นความผิดพลาดในการเขียนของพนักงานในบริษัท Apple และในเวลาต่อมา Apple จึงเปลี่ยนชื่อจาก Macintosh เป็น Mac เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
หลังจากได้ชื่อบริษัท “Apple Computer Inc.” แล้วสิ่งต่อไปที่ต้องการคือ “โลโก้” ซึ่งโลโก้ชิ้นแรกของบริษัทฯ ถูกสร้างขึ้นโดย Ronald Wayne ผู้ที่ถูกทั้งสอง Steve ชวนเข้ามาร่วมถือหุ้นเพราะต้องการเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ Wayne จึงนับได้ว่าเป็นคนที่ 3 ในการร่วมก่อตั้งบริษัทฯ แต่หลังจากที่ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ ได้ไม่นาน Wayne ก็ขายหุ้นทั้งหมดของเขาคืนในมูลค่า $2,300 และถ้า Wayne ยังคงเก็บหุ้นเหล่านั้นไว้มันจะมีมูลค่าถึง $35,000,000,000 เลยทีเดียว
โลโก้แรกถูกใช้พร้อมกับผลิตภัณฑ์ตัวเดียวคือ Apple I เป็นรูปวาดลายเส้นของ เซอร์ ไอแซค นิวตันนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ค้นภพ “กฎแรงโน้มถ่วงสากล (Universal gravity)” ซึ่งนิวตันค้นภพกฏข้อนี้ในขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิลและผลแอปเปิลได้หล่นลงมาโดนศรีษะ โลโก้ของ Apple เป็นเสมือนภาพจำลองเหตุการณ์ครั้งนั้นเลยทีเดียว
ที่รอบๆ โลโก้มีข้อความว่ากล่าวถึงนิวตันว่า ”Newton… A Mind Forever Voyaging Through Strange Seas of Thought … Alone.” หมายถึงนิวตันเป็นผู้ที่ค้นพบในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยการคิดที่แตกต่างและด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบุคคลิกของ Steve Jobs ได้ดีทีเดียว และภาพนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นด้วยแคมเปญ Think Different ในศวรรษที่ 21
โลโก้ที่สอง ซึ่งถือว่าเป็นรากฐานของโลโก้ในปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับมากทีสุด โลโก้นี้ถูกระบุว่าเป็นอะไรจำได้ง่าย เห็นครั้งเดียวก็ยากที่จะลืม ใช่ครับ..มันคือผล “แอปเปิลสีรุ้ง” นั่นเอง โลโก้นี้ถูกดีไซน์ในปี 1976 โดย Rob Janoff เพื่อแทนอันเดิมที่มีความไม่เหมาะสมหลายๆ อย่างในเวลาที่นำไปใช้ Janoff กล่าวว่า สิ่งเดียวที่ Steve Jobs ให้เป็นแนวทางในการออกแบบครั้งนี้คือ “Don’t make it cute.” หรือ “อย่าทำให้มันน่ารัก” เท่านั้น
Janoff ทำงานของเขาและได้ให้ Jobs เลือก 2 โลโก้ที่เป็นสีรุ้งหมือนกันต่างกันที่ อันหนึ่งเป็นแอปเปิลที่มีรอยกัด และอีกอันหนึ่งไม่มีรอยกัด แน่นอน Steve Jobs เลือกอันที่ถูกกัด ซึ่งเป็นคำถามยอดฮิตในเวลาต่อมาว่า
“ทำไมโลโก้ Apple จึงถูกกัด”
หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินคำตอบต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับตชคำถามข้อนี้เช่น “เพราะรอยกัดจะทำให้เห็นชัดว่าเป็น “แอปเปิล” ไม่ใช่ “มะเขือเทศ” หรือ “เพราะ Apple ต้องการสื่อให้เห็นว่าเป็นบริษัทฯ คอมพิวเตอร์” ผ่านโลโก้ที่ถูกกัด (Bite) ซึ่งมีการออกเสียงเหมือนกับคำว่า “Byte” ในทางคอมพิวเตอร์นั่นเอง
แต่..ไม่ใช่ครับ
Janoff ให้สัมภาษณ์กับ Creativebits ในปี 2009ว่า… มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย เพียงแต่เป็นแค่ไอเดียในการดีไซน์ในตอนนั้นว่าอยากจะตัดส่วนนั้นออกเพื่อความสวยงามหรือความแตกต่างเท่านั้นเอง
Aqua logo ถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2001 ในการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ All-in-one ตัวแรกที่มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนใครที่มีชื่อว่า “iMac” Aqua logo ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับ iMac ที่มีหลากสีแต่วัสดุที่ใช้ผลิตมีความใสเหมือนกับน้ำมันจึงได้ชื่อว่า “Aqua” นอกจากนั้นมันยังปรากฏอยู่บนแพคเกจจิ้งของ OS X เวอร์ชั่นแรกๆ จนถึง Panther จึงได้เปลี่ยนเป็น Glass logo
Glass Logo ถูกใช้ครั้งแรกกับ OS X Panther และถูกใช้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนเห็นโลโก้นี้มากที่สุดคือ iPhone ตั้งแต่ iPhone ตัวแรกที่ถูกเปิดตัวมาในปี 2007 Glass Logo จะถูกแสดงขึ้นมาในระหว่างการเปิดเครื่อง iPhone เพื่อใช้งาน หลังจากนั้นมันก็ปรากฏอยู่บนหน้าจอของ iPhone, iPod Touch และ iPad ทุกรุ่นรวม 410,000,000 เครื่อง (ณ เดือนกรกฎาคม 2555)
ยังมีอีกหนึ่งโลโก้ที่ไม่ใช่โลโก้อย่างเป็นทางการของ Apple และ Apple ก็ไม่ใช่ผู้ออกแบบโลโก้นี้ขึ้นมา แต่โลโก้นี้ถูกเห็นโดยคนทั่วโลก และผมเชื่อว่าทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้ต้องเคยเห็น ผู้ที่ออกแบบโลโก้นี้เป็นเด็กหนุ่มนักศึกษาปีที่สองชาวฮ่องกงชื่อ “Jonathan Mak” เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับ Steve Jobs เมื่อเดือนตุลาคมปี 2011
* บทความนี้ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเนื่องจากข้อมูลที่ใช้ในการอ้างอิงมีความหลากหลาย
Steve Jobs และ Steve Wozniack ก่อตั้งบริษัท Apple Computer Inc. ขึ้นเมื่อปี 1976 สิ่งแรกที่พวกเขาต้องการคือชื่อบริษัทฯ และแน่นอนชื่อที่พวกเขาเลือกคือ “Apple” มีเรื่องเล่ากันว่าทั้งสอง Steve มักจะใช้เวลายามว่างในฟาร์มแอปเปิลใกล้ๆ บ้านเพื่อเป็นการพักผ่อน หรือแม้แต่ในเวลาทำงานบางครั้งทั้งคู่ก็จะไปนั่งหารือกันในฟาร์มแอปเปิล จึงเป็นที่มาของชื่อ “Apple” นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีการพูดกันว่ามันเป็นตัวแทนของความรู้จากเรื่องราวของ Adams and Eve หรือมันเพราะต้องการให้ชื่อถูกแสดงขึ้นมาก่อน Atari เมื่อค้นหาข้อมูลที่เรียงตามตัวอักษร
อีกตำนานกล่าว่าตั้งชื่อตามค่ายเพลงของวงดนตรีที่ Steve Jobs ชื่นชอบมาก..ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือถ้า Steve Jobs รู้เค้าอาจจะไม่ตั้งชื่อบริษัทว่า Apple เลยก็ได้ ทั้งนี้เพราะ “The Beatles” ได้ก่อตั้งบริษัทค่ายเพลงชื่อ Apple Corps. ขึ้นมาก่อนที่ Apple Computer จะเกิด ดังนั้นด้วยกฎหมายเรื่องเครื่องหมายทางการค้า Apple Corps. จึงได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อ Apple อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทั้งสองบริษัทฯ ตกลงกันได้ด้วยดี โดย Apple Computer จ่ายให้กับ Apple Corps. เป็นเงิน $80,000 และตกลงว่าจะไม่ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเพลงและดนตรี กาลเวลาผ่านไป Apple Computer ได้สร้าง iPod และ iTunes Store ที่เกี่ยวข้องกับเพลงโดยตรง ทั้งสองบริษัทฯ จึงได้เจรจากันใหม่ ในคราวนี้ Apple Computer ต้องจ่ายเงินให้ Apple Corps. เป็นจำนวนถึง $500,000,000 เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อ “Apple” (ดูรายละเอียดที่ Wikipedia)
และเรื่องราวของผลแอปเปิลกับบริษัท Apple ยังมีเล่ากันอีก เช่น ในช่วงเวลาหนึ่ง Jobs กินแอปเปิลเพียงอย่างเดียวเพราะเขื่อว่าจะทำให้ไม่มีกลิ่นตัว จึงไม่ต้องอาบน้ำบ่อย ดังนั้นเค้าจะมีเวลาในการทำงานมากขึ้น ต่อมาเมื่อ Apple จะทำการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ได้นำเอาชื่อของแอปเปิลพันธ์ุหนึ่งมาตั้งเป็นชื่อของคอมพิวเตอร์รุ่นนั้น…ใช่ครับชื่อนั้นคือ “Macintosh” แต่ทว่าคำว่า ”Macintosh” จริงๆ แล้วไม่มีปรากฏ อยู่ในพจนานุกรมภาษาอังกฤษดล่มใดเลย ทั้งนี้เพราะชื่อของพันธุ์แอปเปิลที่ว่านั้นมีชื่อว่า Mcintosh (Mc ไม่ใช่ Mac) มันเป็นความผิดพลาดในการเขียนของพนักงานในบริษัท Apple และในเวลาต่อมา Apple จึงเปลี่ยนชื่อจาก Macintosh เป็น Mac เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
หลังจากได้ชื่อบริษัท “Apple Computer Inc.” แล้วสิ่งต่อไปที่ต้องการคือ “โลโก้” ซึ่งโลโก้ชิ้นแรกของบริษัทฯ ถูกสร้างขึ้นโดย Ronald Wayne ผู้ที่ถูกทั้งสอง Steve ชวนเข้ามาร่วมถือหุ้นเพราะต้องการเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ Wayne จึงนับได้ว่าเป็นคนที่ 3 ในการร่วมก่อตั้งบริษัทฯ แต่หลังจากที่ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ ได้ไม่นาน Wayne ก็ขายหุ้นทั้งหมดของเขาคืนในมูลค่า $2,300 และถ้า Wayne ยังคงเก็บหุ้นเหล่านั้นไว้มันจะมีมูลค่าถึง $35,000,000,000 เลยทีเดียว
The Newton Crest: 1976-1976
โลโก้แรกถูกใช้พร้อมกับผลิตภัณฑ์ตัวเดียวคือ Apple I เป็นรูปวาดลายเส้นของ เซอร์ ไอแซค นิวตันนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ค้นภพ “กฎแรงโน้มถ่วงสากล (Universal gravity)” ซึ่งนิวตันค้นภพกฏข้อนี้ในขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิลและผลแอปเปิลได้หล่นลงมาโดนศรีษะ โลโก้ของ Apple เป็นเสมือนภาพจำลองเหตุการณ์ครั้งนั้นเลยทีเดียว
ที่รอบๆ โลโก้มีข้อความว่ากล่าวถึงนิวตันว่า ”Newton… A Mind Forever Voyaging Through Strange Seas of Thought … Alone.” หมายถึงนิวตันเป็นผู้ที่ค้นพบในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยการคิดที่แตกต่างและด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบุคคลิกของ Steve Jobs ได้ดีทีเดียว และภาพนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นด้วยแคมเปญ Think Different ในศวรรษที่ 21
The Rainbow Logo: 1976-1998
โลโก้ที่สอง ซึ่งถือว่าเป็นรากฐานของโลโก้ในปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับมากทีสุด โลโก้นี้ถูกระบุว่าเป็นอะไรจำได้ง่าย เห็นครั้งเดียวก็ยากที่จะลืม ใช่ครับ..มันคือผล “แอปเปิลสีรุ้ง” นั่นเอง โลโก้นี้ถูกดีไซน์ในปี 1976 โดย Rob Janoff เพื่อแทนอันเดิมที่มีความไม่เหมาะสมหลายๆ อย่างในเวลาที่นำไปใช้ Janoff กล่าวว่า สิ่งเดียวที่ Steve Jobs ให้เป็นแนวทางในการออกแบบครั้งนี้คือ “Don’t make it cute.” หรือ “อย่าทำให้มันน่ารัก” เท่านั้น
Janoff ทำงานของเขาและได้ให้ Jobs เลือก 2 โลโก้ที่เป็นสีรุ้งหมือนกันต่างกันที่ อันหนึ่งเป็นแอปเปิลที่มีรอยกัด และอีกอันหนึ่งไม่มีรอยกัด แน่นอน Steve Jobs เลือกอันที่ถูกกัด ซึ่งเป็นคำถามยอดฮิตในเวลาต่อมาว่า
“ทำไมโลโก้ Apple จึงถูกกัด”
หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินคำตอบต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับตชคำถามข้อนี้เช่น “เพราะรอยกัดจะทำให้เห็นชัดว่าเป็น “แอปเปิล” ไม่ใช่ “มะเขือเทศ” หรือ “เพราะ Apple ต้องการสื่อให้เห็นว่าเป็นบริษัทฯ คอมพิวเตอร์” ผ่านโลโก้ที่ถูกกัด (Bite) ซึ่งมีการออกเสียงเหมือนกับคำว่า “Byte” ในทางคอมพิวเตอร์นั่นเอง
แต่..ไม่ใช่ครับ
Janoff ให้สัมภาษณ์กับ Creativebits ในปี 2009ว่า… มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย เพียงแต่เป็นแค่ไอเดียในการดีไซน์ในตอนนั้นว่าอยากจะตัดส่วนนั้นออกเพื่อความสวยงามหรือความแตกต่างเท่านั้นเอง
ในส่วนของสี..เราเรียกันติดปากว่า “สีรุ้ง” แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ “สีรุ้ง” ทีเดียวนัก ลองสังเกตุดูจะเห็นว่ามันมีแค่ 6 จาก 7 สีของสีรุ้ง และ ยังเรียงลำดับสีผิดอีกด้วย Janoff ให้เหตุผลของการใช้สีเหล่านี้บนโลโก้ว่า เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์อันไม่มีใครเหมือนของผลิตภัณฑ์ Apple และเพื่อสื่อให้รู้ว่าคอมพิวเตอร์แสดงผลเป็นสีได้แล้ว (Logo นี้ถูกใช้ครั้งแรกกับเครื่อง Apple II ซึ่งมีจอแสดงผลเป็นสีไม่ใช่ขาวดำอีกต่อไป) อีกทั้งยังเป็นสัญญลักษณ์แห่งความสนุกสนานเพื่อจะบอกว่า “ทุกคน (ไม่ใช่เฉพาะวิศวกร) สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างสนุกสนาน”
The Monochrome Logo: 1998 – late 2000
เมื่อ Steve Jobs กลับเข้ามาสู่อาณาจักร Apple อีกครั้งในปี 1997 โลโก้ที่เป็นสีรุ้งถูกทำให้ง่ายขึ้นด้วยการทำเป็นสีเดียว ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนในการผลิต แต่ด้วยเหตุผลหลักจริงๆ คือ Jobs ต้องการให้คนรู้จัก Apple มากขึ้นจึงมีความคิดที่จะเอาโลโก้ไปใช้ให้มากที่สุด การใช้สีรุ้งให้ความรู้สึกสนุกสนานดูแต่จะไม่เหมาะ เพราะถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริงจัง ตอนนั้น Jobs ต้องการนำ Apple กลับมาจากหายนะจึงตัดสินใจเปลี่ยนโลโก้ให้ดูทันสมัยขึ้น เป็นมืออาชีพมากขึ้นและจริงจังมากขึ้นด้วยการเอาสีรุ้งทิ้งไป โลโก้จะใช้สีเพียงสีเดียวเช่นสีดำ สีฟ้า สีแดง และ สีเทา ขึ้นอยู่กับว่าเอาไปใช้ที่ไหนและสีไหนเหมาะสมที่สุด
The Aqua Logo: 2001 – late 2003
Aqua logo ถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2001 ในการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ All-in-one ตัวแรกที่มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนใครที่มีชื่อว่า “iMac” Aqua logo ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับ iMac ที่มีหลากสีแต่วัสดุที่ใช้ผลิตมีความใสเหมือนกับน้ำมันจึงได้ชื่อว่า “Aqua” นอกจากนั้นมันยังปรากฏอยู่บนแพคเกจจิ้งของ OS X เวอร์ชั่นแรกๆ จนถึง Panther จึงได้เปลี่ยนเป็น Glass logo
The Glass Logo: 2003 – Present
ยังมีอีกหนึ่งโลโก้ที่ไม่ใช่โลโก้อย่างเป็นทางการของ Apple และ Apple ก็ไม่ใช่ผู้ออกแบบโลโก้นี้ขึ้นมา แต่โลโก้นี้ถูกเห็นโดยคนทั่วโลก และผมเชื่อว่าทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้ต้องเคยเห็น ผู้ที่ออกแบบโลโก้นี้เป็นเด็กหนุ่มนักศึกษาปีที่สองชาวฮ่องกงชื่อ “Jonathan Mak” เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับ Steve Jobs เมื่อเดือนตุลาคมปี 2011
Steve Jobs: 1955 – 2011
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น